โปรแกรมประยุกต์ทั่วไป

โปรแกรมประยุกต์ทั่วไป
   ซอฟต์แวร์ประยุกต์ทั่วไป (general  purpose software)  เป็นซอฟต์แวร์ที่พัฒนาขึ้นเพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับงานทั่วไป  ไม่เฉพาะเจาะจง  ผู้ใช้จึงต้องเลือกซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมกับลักษณะงาน  เช่น  การพิมพ์รายงาน  การสร้างตารางการทำงาน  การนำเสนอผลงาน  เป็นต้น

1)  ซอฟต์แวร์ประมวลผลคำ (word  processing  software)   เป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้ในการจัดทำเอกสารทุกชนิด  เช่น  รายงาน  จดหมายเวียน  หนังสือ  ใบปลิว  สื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ เป็นต้น  สามารถแก้ไข  เพิ่ม  แทรก  ลบ  และจัดรูปแบบ
เอกสารได้อย่างดี  เอกสารที่พิมพ์ไว้จัดเก็บเป็นแฟ้มข้อมูล  และสามารถนำมาเรียกมาแก้ไขใหม่ได้  ซอฟต์แวร์ประมวลผลคำ
ที่นิยมใช้ในปัจจุบัน  เช่น Microsoft Word, PageMaker, Corel Draw  เป็นต้น
 ข้อดี
.1 สามารถลดความซ้ำซ้อนของข้อมูลได้
.2 สามารถหลีกเลี่ยงความขัดแย้งของข้อมูลได้
3 สามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้
 ข้อเสีย
.1 มีต้นทุนสูง
                            2 มีความซับซ้อนระบบจัดการฐานข้อมูล
                            3 การเสี่ยงต่อการหยุดชะงักของระบบ

(ที่มา : http://www.thailibrary.in.th/2015/01/29/default-font-ms-word-2010/)

2)  ซอฟต์แวร์ตารางการทำงาน (spreadsheet software) 
 เป็นซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการคำนวณ  วิเคราะห์ตัวเลข  เพื่อใช้งาน

ในด้านการเงิน  บัญชี  สถิติ  คณิตศาสตร์  หรือวิทยาศาสตร์  การทำงานของซอฟต์แวร์ตารางการทำงานประกอบด้วยตาราง

ขนาดใหญ่สำหรับใส่ตัวเลข  ข้อความ  สูตรการคำนวณ  ซึ่งมีเครื่องคำนวณเตรียมไว้สำเร็จ  สามารถสั่งให้คำนวณตามสูตรหรือ

เงื่อนไขที่กำหนด  ผู้ใช้สามารถประยุกต์ใช้งานประมวลผลตัวเลขอื่น ๆ ได้กว้างขวาง  ซอฟต์แวร์ตารางการทำงานที่นิยมใช้  

เช่น  Microsoft Excel, Openoffice Cale ในโปรแกรมชุด Pladao Office เป็นต้น

ข้อดี
1.มีซอฟแวร์ที่รองรับจำนวนมาก
2.มีผู้รู้จำนวนมากสามารถช่วยเหลือได้

ข้อเสีย
1.เสียค่าลิขสิทธิ์
2.มีความเสถียรน้อยกว่า


(ที่มา : http://www.tipfornet.com/2013/04/microsoft-excel-2010.html)

3)   ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูล (database  management software)  การใช้งานคอมพิวเตอร์อย่างหนึ่ง  คือ 
การใช้เก็บข้อมูลและการจัดการกับข้อมูลที่จัดเก็บอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์  ซึ่งข้อมูลต่าง ๆ เหล่านั้น  เรียกว่า  ฐานข้อมูล  
ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูล  เพื่อช่วยในการจัดเก็บเรียกค้นทำงาน  และสรุปผลข้อมูลใน
เครื่องคอมพิวเตอร์ซอฟต์แวร์จัดการฐานข้อมูลที่นิยมใช้  เช่น  Dbase, Paradox, Foxbase, Microsoft Access  เป็นต้น
                       
                      ข้อดี
                           1. สามารถลดความซ้ำซ้อนของข้อมูลได้  

                         

 2. หลีกเลี่ยงความขัดแย้งของข้อมูลได้ 
                          3. สามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้

                         ข้อเสีย
                        1. มีต้นทุนสูง
                        2. ระบบฐานข้อมูลจะมีความซับซ้อน
                        3. ปัญหาในการบริหารจัดการและการกระจายความรับผิดชอบ
  
(ที่มา : https://tecnology4blog.wordpress.com/2016/02/10/ซอฟต์แวร์ประยุกต์/)

4)   ซอฟต์แวร์นำเสนอ (presentation software)  เป็นโปรแกรมที่ใช้นำเสนอข้อมูลด้วยระบบคอมพิวเตอร์  สร้างเอกสาร
ที่ประกอบไปด้วยตัวอักษร  รูปภาพ  ภาพเคลื่อนไหว  โดยแสดงออกมาทีละรายการ  รวมทั้งยังสามารถใส่เสียงประกอบ
การนำเสนอได้  สามารถกำหนดระยะเวลาการแสดงและกำหนดจุดเชื่อมโยงไปยังหน้าที่ต้องการได้  เพื่อใช้ประกอบ
การบรรยายและการนำเสนอผลงานทั้งด้านธุรกิจและการศึกษา  ซอฟต์แวร์นำเสนอที่นิยมใช้  เช่น Micorsoft office Powerpoint,
 Openoffice Impress, Pladao Office  เป็นต้น

ข้อดี
1. เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารและการปฏิบัติงาน
2. มีความยึดหยุ่นในการปรับเปลี่ยน

ข้อเสีย
1. ต้องปรับตัวเข้าหาโปรแกรม 


(ที่มา : http://www.9experttraining.com/powerpoint-advanced-training-course)

5)    ซอฟต์แวร์ทางด้านกราฟิกและมัลติมีเดีย (graphice  and multimediasoftware)  เป็นกลุ่มซอฟต์แวร์ประยุกต์ที่
พัฒนาขึ้นสำหรับจัดการงานทางด้านกราฟิกและมัลติมีเดีย มีความสามารถเสมือนเป็นผู้ช่วยในการออกแบบชิ้นงานเกี่ยวกับ
การตกแต่งภาพ  วาดภาพ  ปรับเสียงตัดต่อภาพเคลื่อนไหว  รวมถึงการสร้างและออกแบบพัฒนาเว็บไซด์  ซอฟต์แวร์ทาง
ด้านกราฟิกและมัลติมีเดีย  เช่น Adobe InDesign, Adobe IIIustrator, Adobe Photoshop, Macromedia Dremweaver  เป็นต้น
(ที่มา : http://panida-photoshop.blogspot.com/)


การประยุกต์สำหรับการเรียนการสอน


edu



เทคโนโลยีสารสนเทศที่นำมาใช้สำหรับการเรียนการสอน เป็นการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่หลายอย่าง สอนด้วยสื่ออุปกรณ์ที่ทันสมัย ห้องเรียนสมัยใหม่ มีอุปกรณ์วีดิโอโปรเจคเตอร์ (Video Projector)  มีเครื่องคอมพิวเตอร์ มีระบบการอ่านข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์แบบต่าง ๆ รูปแบบของสื่อที่นำมาใช้ในด้านการเรียน
การสอนก็มีหลากหลาย ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในการนำมาใช้ เช่น คอมพิวเตอร์ช่วยสอน อิเล็กทรอนิกส์บุ๊ค วีดิโอเทเลคอนเฟอเรนซ์   ระบบวีดิโอออนดีมานด์   การสืบค้นข้อมูลในคอมพิวเตอร์และระบบอินเทอร์เน็ต
เป็นต้น
  1. คอมพิวเตอร์ช่วยสอน

          คอมพิวเตอร์ช่วยสอนเป็นการนำเอาเทคโนโลยีรวมกับการออกแบบโปรแกรมการสอนมาใช้ช่วยสอน ซึ่งเรียกกันโดยทั่วไปว่าบทเรียน ซีเอไอ ย่อมาจากคำในภาษาอังกฤษว่า Computer-Assisted Instruction หรือเรียกย่อๆ ว่า ซีเอไอ (CAI) การจัดโปรแกรมการสอนโดยใช้คอมพิวเตอร์ช่วยสอนในปัจจุบันมักอยู่ในรูปของสื่อประสม (Multimedia) หมายถึงนำเสนอได้ทั้งภาพ ข้อความ เสียง ภาพเคลื่อนไหว  ฯลฯ  โปรแกรม ช่วยสอนนี้เหมาะกับการศึกษาด้วยตนเอง  และเปิดโอกาสให้ผู้เรียนสามารถโต้ตอบกับบทเรียนได้ตลอด จนมีผลป้อนกลับเพื่อให้ผู้เรียนรู้ บทเรียนได้อย่างถูกต้อง  และเข้าใจในเนื้อหาวิชาของบทเรียนนั้น ๆ


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

บลที่4 ซอฟต์แวร์ระบบ

โมบายแอพ